พุทธศาสนสุภาษิต
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ธรรมคือแรงใจ
สำนักพิมพ์เอกอนันต์บุ๊ค
Tel : 034-246644
Mobile : 085-0658236, 089-6726781
Fax : 034-246644
email : 96rangjai@gmail.com
โลโก้เอกอนันต์
    บุคคลหรือหน่วยงานใดสนใจจัดพิมพ์หนังสือธรรมะเผยแพร่เพื่อแจกจ่ายเป็นธรรมทานแก่วัด  ห้องสมุด  โรงเรียน  โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์  ทัณฑสถาน ฯ หรือใช้ในโอกาสอันเป็นมงคลในชีวิตท่าน  เช่น วันเกิด   ทำบุญบ้าน  กฐิน  ผ้าป่า  วันขึ้นปีใหม่  งานเกษียณอายุราชการ  งานศพ  สร้างอุทิศส่วนกุศล  สะเดาะเคราะห์  หรือแจกจ่ายในงาน มงคล-อวมงคลต่างๆ
    อนึ่ง  ทางรสำนักพิมพ์มีความยินดีในกุศลเจตนาของท่านผู้มีใจอนุเคราะห์ช่วยเหลือกล่อมเกลาจิตใจของชาวโลกด้วยกุศโลบายอันพระพุทธองค์ได้ทรงสรรเสริญแล้ว ทั้งนี้ ทางสำนักพิมพ์ขอร่วมอนุโมทนาบุญ โดยให้ความสะดวกในด้านบริการในราคาพิเศษและจัดส่งตามรายการสั่ง  ไม่ว่าซื้อน้อย-ซื้อมาก  ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด  ทางสำนักพิมพ์ยินดีให้บริการแก่ทุกท่าน
96 ธรรมคือแรงใจ
จิตเดิมแท้ของเรานั้นทุกคนนั้นมาจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์
        อันคำสุภาษิตย่อมเป็นที่นิยมของหมู่ชนทั้งหลาย แม้ต่างชาติ ต่างภาษาและต่างศาสนา ต่างก็มีสุภาษิตในหมู่ของตน ผูกขึ้นตาม ความนิยมให้ถูกแก่คราว แต่ก็เป็นธรรมดาของความดีที่ปรากฏ แก่ใจ ของปราชญ์ ถึงจะไม่ได้รับความคิดจากกันมาโดยทางใดทางหนึ่ง ก็ ยังดำริร่วมกันได้ก็มี แต่ข้อที่ต่างก็มีเหมือนกัน เพราะความนิยม ของฝ่ายหนึ่งย่อมต่างจากของอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ดี คำสุภาษิต ทั้งนั้น ย่อมเป็นคำสั้น ๆ จำได้ง่ายทั้งไพเราะมีความกว้าง ผู้ผูกขึ้น เลือกความกล่าวให้เป็นที่จับใจ.
        ฝ่ายของไทยเราก็มีหลายอย่าง มี สุภาษิตพระร่วงเป็นต้น ที่เลือกความมาจากบาลีก็มีบ้าง เช่นโลกนิติ. ความคิดรวมสุภาษิตนี้ขึ้น ก็เพื่อจะเลือกคำสอนฝ่ายพระพุทธศาสนา ไว้ในหมวดเดียวกัน จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ฝึกสอนผู้ศึกษา และผุ้ ปฏิบัติในทางนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เช่นหนังสือนวโกวาทที่เป็นอยู่บัดนี้.
        เพราะเหตุนั้น ในที่นี้ไม่ได้เก็บสุภาษิตของพวกถือลัทธิอื่นมากล่าว มีแต่คำที่มาในพระคัมภีร์ฝ่ายพระพุทธศาสนา คำที่สั้นก็ได้ชักมาไว้ ตรง ๆ คำที่ยาวเกินกว่าต้องการในที่นี้ได้ย่นให้สั้นลง แต่คงใจความ ตามเดิม คำเช่นนี้ได้เรียกว่านัย ได้แปลความไทยกับทั้งได้บอกที่มา ไว้ด้วย อีกอย่างหนึ่ง คำทีท่านผู้รู้ปริยัติทั้งหลายอื่นบ้าง ข้าพเจ้าเอง บ้าง อาศัยมติข้างพระพุทธศาสนาผูกขึ้นไว้ เพื่อประโยชน์เฉพาะเป็น ข้อสุภาษิตบ้าง เพื่อประโยชน์อื่นบ้าง เข้าพวกกันได้ก็ได้นำมารวบ. รวมไว้ด้วย แต่ข้างท้ายได้บอกนามผู้แต่งหรือหนังสือที่แต่งไว้.
        ข้อ สุภาษิตในเรื่องนี้ ได้จัดสงเคราะห์เข้าเป็นหมวด ๆ เช่นว่าด้วยปัญญา หรือความสัตย์ ก็รวมไว้ตามพวก และชื่อหมวดนั้น ก็จัดเข้าลำดับ อักษรอื่นเพื่อค้นหาง่าย.
        หนังสือนี้ เรียบเรียงขึ้นโดยกระแสพระราชดำริแห่งสมเด็จบรม- บพิตรพระราชสมภารเจ้า ดังมีแจ้งต่อไปนี้ เพื่อพระราชทานเป็นของ แจกในงานเลื่อนกรมข้าพเจ้า ที่ทรงเป็นพระราชธุระส่วนพระองค์ โดย ฐานที่ทรงตั้งอยู่ในทีเป็นผู้ใหญ่ของข้าพเจ้า. มีเวลาทำน้อย ระเบียบที่ จัดไม่เรียบร้อยไปโดยตลอด และคัมภีร์เป็นที่มาบางแห่ง ก็ต้องอ้าง แต่ที่เป็นชั้นรอง เช่นมังคลัตถทีปนี ที่ชักคำในแห่งอื่นมากล่าวไว้อีก ต่อหนึ่ง ถึงอย่างไรก็พอจะยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ตามความมุ่งหมาย ซึ่งกล่าวแล้วในข้างต้น. กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร วันที ๑๖ ตุลาคม ร. ศ๓๙. ๑๒๕
นโม พุทฺธาย

๑. อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย.
๒. อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม. 
๓. อตฺตา สุทฺนฺโต ปุริสสฺส โชติ. 
๔. อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ.
๕. อตฺตา หิ อตฺตโน คติ.

๖. อตฺตา หิ ปรมํ ปิโย.
๗. นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ.
๘. อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ.
๙. อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ.
๑๐. อตฺตตฺถปญฺา อสุจี มนุสฺสา.

๑๑. อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา.
๑๒. อตฺตานํ ทมยนตฺติ สุพฺพตา.
๑๓. อตฺตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ.
๑๔. โย รกฺขติ อตฺตานํ รกฺขิโต ตสฺส พาหิโร.
๑๕. อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺา รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ.

โพธิ
พุทธศาสนสุภาษิต
๑.  อัตตวรรค  คือ  หมวดตน
ตรัสรู้
บัณฑิตพึงทำตนให้ผ่องแผ้วจากเครื่องเศร้าหมองจิต.
ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น.
จงเตือนตนด้วยตนเอง.
จงพิจารณาตนด้วยตนเอง.
จงถอนตนขึ้นจากหล่ม เหมือนช้างตกหล่มถอนตนขึ้นฉะนั้น.

จงเป็นผู้ตามรักษาตน อย่าได้เดือดร้อน.
อย่าฆ่าตนเสียเลย.
บุรุษไม่พึงให้ซึ่งตน.
บุรุษไม่พึงสละเสียซึ่งตน.
บุคคลไม่ควรลืมตน.

ไม่ควรพร่าประโยชน์ตน เพราะประโยชน์ผู้อื่นแม้มาก.
ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ไม่ควรประกอบตนนั้นด้วยความชั่ว.
ติตนเองเพราะเหตุใด ไม่ควรทำเหตุนั้น.
๒๙. อปฺปมาโท อมตํปทํ.
๓๐. อปฺปมาทญฺจ เมธาวี  ธนํ เสฏฺฐํว รกฺขติ    
๓๑. อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ.  
๓๒. อปฺปมาเท ปโมทนฺติ.
๓๓. อปฺปมตฺตา น มียนฺติ.

๓๔. อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต ปปฺโปติ วิปุลํ สุขํ.
๓๕. อปฺปมตฺโต อุโภ อตฺเถ อธิคฺคณหาติ ปณฺฑิโต.
๓๖. อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ.
๓๗. อปฺปมาทรตา โหถ.
๒.  อัปปมาทวรรค  คือ หมวดไม่ประมาท.
๓๘. กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตาย.
๓๙. ยงฺกิญฺจิ สิถิลํ กมฺมํ น ตํ โหติ มหปฺผลํ. 
๔๐. สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคตึ.
๔๑. สุกรํ สาธุนา สาธุ.
๔๒. สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ.

๔๓. อกตํ ทุกฺกฏํ เสยฺโย.
๔๔. ปจฺฉา ตปฺปติ ทุกฺกฏํ.
๔๕. กตญฺจ สุกตํ เสยฺโย.
๔๖. น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา อนุตปฺปติ.
๔๗. ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ.

๔๘. สุกรานิ อสาธูนิ อตฺตโน อหิตานิ จ.
๔๙. ยํ เว หิตญฺจ สาธุญฺจ ตํ เว ปรมทุกฺกรํ.
๕๐. น หิ ตํ สุลภํ โหติ สุขํ ทุกฺกฏการินา. 
๕๑. กลฺยาณการี กลฺยาณํ. ปาปการี จ ปาปกํ.
๕๒. กมฺมุนา วตฺตี โลโก.

๕๓. นิสมฺม กรณํ เสยฺโย.
๕๔. กตสฺส นตฺถิ ปฏิการํ.
๕๕. ปฏิกจฺเจว ตํ กยิรา ยํ ชญฺ?า หิตมตฺตโน.
๕๖. กยิรา เจ กยิราเถนํ.
๕๗. กเรยฺย วากฺยํ อนุกมฺปกานํ.
๕๘. กาลานุรูปํว ธุรํ นิยุญฺเช.
๕๙. รกฺเขยฺย อตฺตโน สาธุํ ลวณํ โลณตํ ยถา.
๖๐. กิจฺจานุกุพฺพสฺส กเรยฺย กิจฺจํ.
๖๑. นานตฺถกามสฺส กเรยฺย อตฺถํ.
๖๒. มา จ สาวชฺชมาคมา.
๓.  กัมมวรรค  คือ  หมวดกรรม.
๔.  กิเลสวรรค  คือ หมวดกิเลส.
ความกำหนัดเพราะดำริ เป็นกามของคน.
กามทั้งหลายที่เที่ยง ไม่มีในมนุษย์.
ความอิ่มด้วยกามทั้งหลาย ไม่มีในโลก.
ความอิ่มในกามทั้งหลาย ย่อมไม่มีเพราะฝนคือกหาปณะ.
ทุกข์ (อื่น) ยิ่งกว่ากาม ย่อมไม่มี.

แม่น้ำเสมอด้วยตัณหา ไม่มี.
ความอยากละได้ยากในโลก.
ความอยากมีอารมณ์หาที่สุดมิได้เลย.
ความอยากย่อมเสือไสซึ่งนรชน.
ไฟเสมอด้วยราคะ ไม่มี.

ความโลภเป็นอันตรายแห่งธรรมทั้งหลาย.
ความละโมบเป็นบาปแท้.
ข่ายเสมอด้วยโมหะ ไม่มี.
ผู้บริโภคกาม ย่อมปรารถนากามยิ่งขึ้นไป.
ผู้บริโภคกามเป็นผู้พร่อง ละร่างกายไป.

ผู้มีปัญญาทราม ย่อมฆ่าตนเองเหมือนฆ่าผู้อื่น
เพราะอยากได้ โภคทรัพย์.
คนทั้งหลายอันอวิชชาหุ้มห่อไว้.
 
 
 
 
 
ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย.
ปราชญ์ย่อมรักษาความไม่ประมาทไว้ เหมือนทรัพย์ประเสริฐสุด.
บัณฑิตย่อมสรรเสริญความไม่ประมาท. 
บัณฑิตย่อมบันเทิงในความไม่ประมาท.
ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย.

ผู้ไม่ประมาทพินิจอยู่ ย่อมถึงสุขอันไพบูลย์.
บัณฑิตผู้ไม่ประมาท ย่อมได้รับประโยชน์ทั้งสอง.
ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม.
ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ยินดีในความไม่ประมาท.
๑๖. ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ จิตฺตเกฺลเสหิ ปณฺฑิโต.
๑๗. อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถญฺมนุสาสติ.
๑๘. อตฺตนา โจทยตฺตานํ.
๑๙. ปฏิมํเสตมตฺตนา.
๒๐. ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ ปงฺเก สนฺโนว กุญฺชโร.

๒๑. อตฺตานุรกฺขี ภว มา อฑยฺหิ.
๒๒. อตฺตานญฺจ น ฆาเตสิ.
๒๓. อตฺตานํ น ทเท โปโส.
๒๔. อตฺตานํ น ปริจฺจเช.
๒๕. อตฺตานํ นาติวตฺเตยฺย.

๒๖. อตฺตทตฺถํ ปรตฺเถน พหุนาปิ น หาปเย.
๒๗. อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺา น นํ ปาเปน สํยุเช.
๒๘. ยทตฺตครหึ ตทกุพฺพมาโน.
ชนะตนนั่นแหละ เป็นดี.
ได้ยินว่าตนแล ฝึกได้ยาก.
ตนที่ฝึกดีแล้ว เป็นแสงสว่างของบุรุษ.
ตนแล เป็นที่พึ่งของตน.
ตนเทียว เป็นคติของตน.

ตนแล เป็นที่รักยิ่ง.
ความรัก (อื่น) เสมอด้วยตนไม่มี.
ตนทำบาปเอง ย่อมเศร้าหมองเอง.
ตนไม่ทำบาปเอง ย่อมหมดจดเอง.
มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด.

บัณฑิต ย่อมฝึกตน.
ผู้ประพฤติดี ย่อมฝึกตน.
ผู้มีตนฝึกดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งซึ่งได้ยาก.
ผู้ใดรักษาตนได้ ภายนอกของผู้นั้นก็เป็นอันรักษาด้วย.
ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ควรรักษาตนนั้นให้ดี.

กรรมย่อมจำแนกสัตว์ คือให้ทรามและประณีต.
การงานอะไร ๆ ที่ย่อหย่อน ย่อมไม่มีผลมาก.
กรรมชั่วของตนเอง ย่อมนำไปสู่ทุคติ.
ความดี อันคนดีทำง่าย.
ความดี อันคนชั่วทำยาก.

ความชั่ว ไม่ทำเสียเลยดีกว่า.
ความชั่วย่อมเผาผลาญในภายหลัง.
ความดี ทำนั่นแล ดีกว่า.
ทำกรรมใดแล้วร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นไม่ดี.
ทำกรรมใดแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นแลเป็นดี. 

การที่ไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ทำได้ง่าย.
การใดแลเป็นประโยชน์ด้วย ดีด้วย การนั้นแลทำได้ยากยิ่ง.
สุขไม่เป็นผลอันคนทำชั่วจะได้ง่ายเลย.
สัตวโลกย่อมเป็นไปตามกรรม.

ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ ดีกว่า.
สิ่งที่ทำแล้ว ทำคืนไม่ได้.
รู้ว่าการใดเป็นประโยชน์แก่ตน พึงรีบทำการนั้นเทียว.
ถ้าจะทำ ก็พึงทำการนั้น (จริง ๆ).
ควรทำตามถ้อยคำของผู้เอ็นดู.

พึงประกอบธุระให้เหมาะแก่กาลเทียว.
พึงรักษาความดีของตนไว้ ดังเกลือรักษาความเค็ม.
พึงทำกิจแก่ผู้ช่วยทำกิจ.
ไม่พึงทำประโยชน์แก่ผู้มุ่งความพินาศ. 
อย่ามาถึงกรรมอันมีโทษเลย.
๖๓. สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม.
๖๔. น สนฺติ กามา มนุเชสุ นิจฺจา.
๖๕. กาเมหิ โลกมฺหิ น อตฺถิ ติตฺติ.
๖๖. น กหาปณวสฺเสน ติตฺติ กาเมสุ วิชฺชติ.
๖๗. นตฺถิ กามา ปรํ ทุกฺขํ.

๖๘. นตฺถิ ตณฺหาสมา นที.
๖๙. อิจฉา โลกสฺมิ ทุชฺชหา.
๗๐. อิจฺฉา หิ อนนฺตโคจรา.
๗๑. อิจฺฉา นรํ ปริกสฺสติ.
๗๒. นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ.

๗๓. โลโภ ธมฺมานํ ปริปนฺโถ.
๗๔. อติโลโภ หิ ปาปโก.
๗๕. นตฺถิ โมหสมํ ชาลํ.
๗๖. ภิยฺโย จ กาเม อภิปตฺถยนฺติ.
๗๗. อูนา ว หุตฺวาน ชหนฺติ เทหํ.

๗๘. โภคตณฺหาย ทุมฺเมโธ หนฺติ อญฺเว อตฺตนํ.

๗๙. อวิชฺชานิวุตา โปสา.
ความโกรธไม่ดีเลย.
ความโกรธเป็นดังสนิมศัสตราในโลก.
ความโกรธก่อความพินาศ.
ความโกรธครอบงำนรชนเมื่อใด ความมืดมนย่อมมีเมื่อนั้น
ความโกรธน้อยแล้วมาก มันเกิดจากความไม่อดทนจึงทวีขึ้น.

ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนมีปัญญาทราม.
โทสะมีความโกรธเป็นสมุฏฐาน.
ผู้จับเสมอด้วยโทสะ ไม่มี.
ความผิดเสมอด้วยโทสะไม่มี.
ฆ่าความโกรธได้ อยู่เป็นสุข.

ฆ่าความโกรธได้ ไม่เศร้าโศก.
ผู้ถูกความโกรธครอบงำ ย่อมละกุศลเสีย.
คนมักโกรธ ย่อมมีผิวพรรณเศร้าหมอง.
คนมักโกรธ ย่อมอยู่เป็นทุกข์.
คนมักโกรธถือเอาประโยชน์แล้ว กลับประพฤติไม่เป็นประโยชน์.

ผู้ถูกความโกรธครอบงำ ย่อมถึงความเสื่อมทรัพย์.
โกธสมฺมทสมฺมตฺโต อายสกฺยํ นิคจฺฉติ. ผู้เมามึนด้วยความโกรธ
ย่อมถึงความไร้ยศศักดิ์.
ญาติมิตรและสหาย ย่อมหลีกเลี่ยงคนมักโกรธ.
ผู้โกรธ ย่อมไม่รู้อรรถ.
ผู้โกรธ ย่อมไม่เห็นธรรม.

ผู้โกรธจะผลาญสิ่งใด สิ่งนั้นทำยากก็เหมือนทำง่าย.
ภายหลัง เมื่อความโกรธหายแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือน ถูกไฟไหม้.
ผู้ถูกความโกรธครอบงำ ย่อมไม่มีที่พำนักสักนิดเดียว.
ย่อมฆ่ามารดาของตนได้.
ผู้เกิดความโกรธแล้ว เป็นผู้ฉิบหาย.

พึงตัดความโกรธด้วยความข่มใจ.
พึงตัดความโกรธด้วยปัญญา.
อย่าลุอำนาจความโกรธ.
๕.  โกธวรรค  คือ หมวดโกรธ
๘๐. น หิ สาธุ โกโธ.
๘๑. โกโธ สตฺถมลํ โลเก.
๘๒. อนตฺถชนโน โกโธ.
๘๔. อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โกโธ สหเต นรํ.
๘๕. อปฺโป หุตฺวา พหุ โหติ วฑฺฒเต โส อขนฺติโช.

๘๖. โกโธ ทุมฺเมธโคจโร. .
๘๗. โทโส โกธสมุฏฺฐาโน.
๘๘. นตฺถิ โทสสโม คโห.
๘๙. นตฺถิ โทสสโม กลิ.
๙๐. โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ.

๙๑. โกธํ ฆตฺวา น โสจติ.
๙๒. โกธาภิภูโต กุสลํ ชหาติ.
๙๓. โกธโน ทุพฺพณฺโณ โหติ.
๙๔. ทุกฺขํ สยติ โกธโน.
๙๕. อโถ อตฺถํ คเหตฺวาน อนตฺถํ ปฏิปชฺชติ.

๙๖. โกธาภิภูโต ปุริโส ธนชานึ นิคจฺฉติ.
๙๗. โกธสมฺมทสมฺมตฺโต อายสกฺยํ นิคจฺฉติ.

๙๘. ญาติมิตฺตา สุหชฺชา จ ปริวชฺเชนฺติ โกธนํ.
๙๙. กุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ.
๑๐๐. กุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ.

๑๐๑. ยํ กุทฺโธ อุปโรเธติ สุกรํ วิย ทุกฺกรํ.
๑๐๒. ปจฺฉา โส วิคเต โกเธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ.
๑๐๓. โกเธน อภิภูตสฺส น ทีปํ โหติ กิญฺจินํ. 
๑๐๔. หนฺติ กุทฺโธ สมาตรํ.
๑๐๕. โกธชาโต ปราภโว.

๑๐๖. โกธํ ทเมน อุจฺฉินฺเท.
๑๐๗. โกธํ ปญฺาย อุจฺฉินฺเท.
๑๐๘. มา โกธสฺส วสํ คมิ.
๖.  ขันติวรรค  คือ  หมวดอดทน.
ขันติคือความอดทน เป็นตปะอย่างยิ่ง.
ความอดทน ห้ามไว้ได้ซึ่งความผลุนผลัน.
ความอดทน นำมาซึ่งประโยชน์สุข.
ความอดทน เป็นเครื่องประดับของนักปราชญ์.

ความอดทน เป็นตปะของผู้พากเพียร.
ความอดทน เป็นกำลังของนักพรต.
สมณพราหมณ์ มีความอดทนเป็นกำลัง.
ผู้มีความอดทน ย่อมเป็นที่ชอบใจ (ของคนอื่น).
๑๐๙. ขนฺติ ปรมํ ตโป ตีติกฺขา.
๑๑๐. ขนฺติ สาหสวารณา.
๑๑๑. ขนฺติ หิตสุขาวหา.
๑๑๒. ขนฺติ ธีรสฺสลงฺกาโร.

๑๑๓. ขนฺติ ตโป ตปสฺสิโน.
๑๑๔. ขนฺติ พลํ ว ยตีนํ.
๑๑๕. ขนฺติพลา สมณพฺราหฺมณา.
๑๑๖. มนาโป โหติ ขนฺติโก.
 
 
Copyright (c) 2010 All Rights Reserved.
ขึ้นบนสุด
๗.  จิตตวรรค  คือ หมวดจิต
เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันต้องหวัง.
เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้.
จิตฺเตน นียติ โลโก. โลกอันจิตย่อมนำไป.
การฝึกจิตเป็นความดี.
จิตที่ฝึกแล้ว นำสุขมาให้.

จิตที่คุ้มครองแล้ว นำสุขมาให้.
ผู้ประพฤติตามอำนาจจิต ย่อมลำบาก.
คนฉลาดได้ทำจิตของตนให้ซื่อตรง.
พึงเป็นผู้ฉลาดในกระบวนจิตของตน.
พึงรักษาจิตของตน. เหมือนคนประคองบาตรเต็มด้วยน้ำมัน.

จงตามรักษาจิตของตน.
ผู้มีปัญญาพึงรักษาจิต.
ก็บาปเกิดจากอารมณ์ใด ๆ พึงห้ามใจจากอารมณ์นั้น ๆ
๑๑๗. จิตฺเต สงฺกิลิฏเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา.
๑๑๘. จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา.
๑๑๙. จิตฺเตน นียติ โลโก.
๑๒๐. จิตฺตสฺส ทมโถ สาธุ.
๑๒๑. จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ.

๑๒๒. จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ.
๑๒๓. วิหญฺ?ตี จิตฺตวสานุวตฺตี.
๑๒๔. จิตฺตํ อตฺตโน อุชุกมกํสุ.
๑๒๕. สจิตฺตปริยายกุสลา ภเวยฺยุํ.
๑๒๖. เตลปตฺตํ ยถา ปริหเรยฺย เอวํ สจิตฺตมนุรกฺเข.

๑๒๗. สจิตฺตมนุรกฺขถ.
๑๒๘. จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี.
๑๒๙. ยโต ยโต จ ปาปกํ ตโต ตโต มโน นิวารเย.
ผู้ชนะ ย่อมก่อเวร.
การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง.
รสแห่งธรรม ย่อมชนะรสทั้งปวง.
ความยินดีในธรรม ย่อมชนะความยินดีทั้งปวง.
ความสิ้นตัณหา ย่อมชนะทุกทั้งปวง.

ความชนะใดที่ชนะแล้วกลับแพ้ได้ ความชนะนั้นไม่ดี.
ความชนะใดที่ชนะแล้วไม่กลับแพ้ ความชนะนั้นดี.
พึงชนะความโกรธด้วยการไม่โกรธ.
พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี..
พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้.
พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง.
๘.  ชยวรรค  คือ หมวดชนะ
๑๓๐. ชยํ เวรํ ปสวติ.
๑๓๑. สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ.
๑๓๒. สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ.
๑๓๓. สพฺพรตึ ธมฺมรติ ชินาติ.
๑๓๔. ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ.

๑๓๕. น ตํ ชิตํ สาธุ ชิตํ ยํ ชิตํ อวชิยฺยติ.
๑๓๖. ตํ โข ชิตํ สาธุ ชิตํ ยํ ชิตํ นาวชิยฺยติ.
๑๓๗. อกฺโกเธน ชิเน โกธํ.
๑๓๘. อสาธุํ สาธุนา ชิเน.
๑๓๙. ชิเน กทริยํ ทาเนน.
๑๔๐. สจฺเจนาลิกวาทินํ.
 
 
หมวดเบ็ดเตล็ด
หมวดปัญญา
หมวดประมาท
หมวดบาป
หมวดบุคคล
หมวดบุญ
หมวดมาร
หมวดมิตร
หมวดขอ
หมวดพระราชา
หมวดวาจา
หมวดเพียร
หมวดเวร
หมวดความสัตย์
หมวดสติ
หมวดศรัทธา
หมวดสันโดษ
หมวดสมณะ
หมวดสามัคคี
หมวดศีล
หมวดสุข
หมวดคบหา

ตนแล เป็นที่รักยิ่ง
จงเตือนตนด้วยตนเอง
ความไม่ประมาทเป็นทางไม่ตาย
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ไฟเสมอด้วยราคะไม่มี
ผู้โกรธย่อมไม่เห็นธรรม
สมณพราหมณ์มีความอดทนเป็นกำลัง
การฝึกจิตเป็นความดี
การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง
๙.  ทานวรรค  คือ หมวดทาน
 
ท่านว่า ทานและการรบ เสมอกัน.
เมื่อจิตเลื่อมใสแล้ว ทักขิณาทานชื่อว่าน้อย ย่อมไม่มี.
การเลือกให้ อันพระสุคตทรงสรรเสริญ.
คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน.
ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้.

ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก คนหมู่มากย่อมคบเขา.
ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก.
ปราชญ์ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข.
มนาปทายี ลภเต มนาปํ. ผู้ให้สิ่งที่ชอบใจ ย่อมได้สิ่งที่ชอบใจ.
ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ.

ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศอีก. .
เมื่อให้ บุญก็เพิ่มขึ้น.
คนควรให้ของที่ควรให้.
๑๔๑. ทานญฺจ ยุทฺธญฺจ สมานมาหุ.
๑๔๒. นตฺถิ จิตฺเต ปสนฺนมฺหิ อปฺปกา นาม ทกฺขิณา.
๑๔๓. วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ.
๑๔๔. พาลา หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํ.
๑๔๕. ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ.

๑๔๖. ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู.
๑๔๗. ททมาโน ปิโย โหติ.
๑๔๘. สุขสฺส ทาตา เมธาวี สุขํ โส อธิคจฺฉติ.
๑๔๙. มนาปทายี ลภเต มนาปํ.
๑๕๐. เสฏฺฐนฺทโท เสฏฺฐมุเปติ ฐานํ

๑๕๑. อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ.
๑๕๒. ททโต ปุญฺ ํํ ปวฑฺฒติ.
๑๕๓. ทเทยฺย ปุริโส ทานํ.
ปัญจวัคคี
๑๐.  ทุกขวรรค  คือ หมวดทุกข์
 
๑๕๔. นตฺถิ ขนฺธสมา ทุกฺขา.
๑๕๕. สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา.
๑๕๖. ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา.
๑๕๗. ทฬิทฺทิยํ ทุกขํ โลเก.

๑๕๘. อิณาทานํ ทุกขํ โลเก.
๑๕๙. ทุกฺขํ อนาโถ วิหรติ.
๑๖๐. ทุกขํ เสติ ปราชิโต.
๑๖๑. อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา.
ทุกข์เสมอด้วยขันธ์ ไม่มี.
สังขาร เป็นทุกข์อย่างยิ่ง.
เหย้าเรือนที่ปกครองไม่ดี นำทุกข์มาให้.
ความจนเป็นทุกข์ในโลก.

การกู้หนี้ เป็นทุกข์ในโลก.
คนไม่มีที่พึ่ง อยู่เป็นทุกข์.
ผู้แพ้ ย่อมอยู่เป็นทุกข์.
ทุกข์ ย่อมไม่ตกถึงผู้หมดกังวล.
๑๑.  ธัมมวรรค  คือ หมวดธรรม
๑๖๒. ธมฺโม รหโท อกทฺทโม.
๑๖๓. มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา. 
๑๖๔. ธมฺโม หิ อิสินํ ธโช. 
๑๖๕. สตํ ธมฺโม ทุรนฺวโย. 
๑๖๖. สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ. 

๑๖๗. สทฺธมฺโม สพฺภิ รกฺขิโต. 
๑๖๘. ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ. 
๑๖๙. สพฺเพสํ สหิโต โหติ สทฺธมฺเม สุปติฏฺฐิโต. 
๑๗๐. ธมฺมปีติ สุขํ เสติ. ผู้มีปีติในธรรม อยู่เป็นสุข. 
๑๗๑. ธมฺมจารี สุขํ เสติ.

๑๗๒. ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺจารึ.
๑๗๓. น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี. 
๑๗๔. ธมฺเม ฐิตํ น วิชหาติ กิตฺติ. 
๑๗๕. ธมฺเม ฐิตา เย น กโรนฺติ ปาปกํ.
๑๗๖. สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย. 

๑๗๗. โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ. 
๒๓๓. ๑๗๘. ธมฺมํ จเร สุจิตํ น ตํ ทุจฺจริตํ จเร. 
๑๗๙. สทฺธมฺโม ครุกาตพฺโพ. 
๑๘๐. กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย. 
๑๘๑. สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต.
ธรรมเหมือนห้วงน้ำไม่มีตม.
ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า.
ธรรมแล เป็นธงชัยของพวกฤษี. 
ธรรมของสัตบุรุษ รู้ได้ยาก. 
ธรรมของสัตบุรุษ ไม่เข้าถึงความคร่ำคร่า. 

ธรรมของสัตบุรุษ อันสัตบุรุษรักษา. 
ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว นำสุขมาให้. 
ผู้ตั้งมั่นในสัทธรรม เป็นผู้เกื้อกูลแก่คนทั้งปวง.
ผู้มีปีติในธรรม อยู่เป็นสุข.
ผู้ประพฤติธรรม อยู่เป็นสุข. 

ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม.
ผู้ประพฤติธรรม ไม่ไปสู่ทุคติ. 
เกียรติ ย่อมไม่ละผู้ตั้งอยู่ในธรรม. 
ผู้ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่ทำบาป.
สภาวธรรมทั้งปวง ไม่ควรถือมั่น. 

พึงเลือกเฟ้นธรรมโดยแยบคาย. 
พึงประพฤติธรรมให้สุจริต ไม่ควรประพฤติให้ทุจริต.
ควรเคารพสัทธรรม.
บัณฑิตควรละธรรมดำเสีย.
บัณฑิตควรเจริญธรรมขาว.