ยินดีต้อนรับสู่ฟอรั่ม 96 เสวนาธรรมบำเพ็ญ
กรุณา ลงทะเบียน เพื่อสามารถใช้งานฟอรั่มได้อย่างเต็มรูปแบบ !
ลงทะเบียนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและใช้เวลาเพียงเล็กน้อย

"โดยพื้นฐานธรรมชาติเดิมแท้ของตัวเรา
เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์และสะอาด
ถ้าเรารู้จิตของเราและเห็นถึงธรรมชาติเดิมแท้ของเรา
เราทั้งหลายก็จะบรรลุถึงความเป็นพุทธะ"

หน้า: [1]   ลงล่าง
  ตอบ  |  พิมพ์  
Share this topic on FacebookShare this topic on Twitter
ผู้เขียน หัวข้อ: สัจจธรรมจริงของชีวิต 人生真谛  (อ่าน 14820 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Administrator
ผู้มีประสบการณ์
*****
Like : 0
กระทู้: 58
ออฟไลน์ ออฟไลน์
ดูรายละเอียด
« เมื่อ: มิถุนายน 19, 2013, 10:56:56 AM »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


(1.)   สัจจธรรมจริงของชีวิต 人生真谛


(1)   คำนำ
 นิยามของชีวิต – วิถีชีวิตตั้งแต่เกิดจนถึงตายไป
อ้างถึง
มนุษย์ตั้งแต่เป็นทารกอุแว้ออกจากท้องแม่ วิถีชีวิตก็ค่อยๆเริ่มขึ้น ในระหว่างการดำเนินชีวิตนั้น บางคนพบแต่ความราบรื่นงดงาม ทัศนียภาพดีงามไปหมด บางคนก็ประสบแต่มรสุมรุมเร้า เต็มไปด้วยโคลนเลน ดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบาก วิถีชีวิตเหมือนกัน กลับมีสภาวะการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันเป็นร้อยแบบ ไม่ว่าชีวิตนี้จะดีหรือเลว ชั่วชีวิตของคนส่วนใหญ่ตั้งแต่ต้นจนจบย้อนคิดให้ละเอียด สิ่งที่มนุษย์แสวงหามาทั้งหมด เสมือนสร้างบ่วงร้อยรัดตนเองทั้งสิ้น

สมัยยังเด็กก็ปรารถนาให้โตไวๆ ครั้นเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่มีจิตใจแบ่งแยกก็คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเอง หลังจากแต่งงานแล้วมีบุตรธิดา เพื่อสะสมทุนทรัพย์ไว้ให้บุตรธิดาของตน ก็ดิ้นรนวิ่งเต้นแสวงหาไปทุกทิศทาง เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง สองมือว่างเปล่าสิ่งที่ทุ่มเทหามาทั้งหมด ทรัพย์สมบัตินำไปไม่ได้แม้แต่นิดเดียว  และสิ่งที่ทำมาทั้งหมด มูลเหตุแห่งกรรมดี กรรมชั่วที่ได้ก่อไว้กลับติดตามเราเหมือนเงาตามตัวไม่อาจสลัดพ้นจึงผลักดันให้เราไปเวียนว่ายตายเกิด

(2)   ความหมายของชีวิต

อ้างถึง
มนุษย์มาเกิดยังโลกนี้ดิ้นรนวิ่งเต้น เพื่ออะไรหรือ? ถ้าหากมาใช้ชีวิตเพียงแค่เสวยสุขหรือสืบทอดวงศ์ตระกูล ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน แล้วมนุษย์จะคู่ควรกับคำว่าเป็นสัตว์ประเสริฐได้อย่างไร และจะสามารถนับเป็น หนึ่งในสามคุณกับฟ้าดินได้หรือ

ฉะนั้นความหมายของชีวิตไม่ควรแคบๆแบบนี้ มนุษย์มาดำเนินชีวิตในโลกนี้ควรจะดำเนินตามภาระหน้าที่ที่สูงส่งให้สำเร็จเสร็จสิ้นและยังมีอาณาจักรที่ยิ่งสูงส่งกว่าให้ไปสร้างสรรค์มองดูการจารึกของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แท้จริงมีบุคคลบางท่าน ใช้ชีวิตที่จำกัดนี้ให้มีสาระประโยชน์ สร้างชีวิตที่เป็นอมตะ แม้กายเนื้อจะตายไป แต่จิตใจยังดำรงอยู่ ได้รับการรำลึกจากชนรุ่นหลังเป็นพันชาติหมื่นชาติ นี่ถึงจะเป็นความล้ำค่าของการดำรงชีวิต

(3)   ทัศนะชีวิต
ข้าวสารหนึ่งชนิดเลี้ยงคนร้อยแบบ แต่ละคนมีความปรารถนาต่างกัน นิยามชีวิตของแต่ละคน ความหมายนั้นก็ต่างกัน พูดสรุปรวบยอดได้ว่ามนุษย์ในโลกนี้รอคอยบทบาทที่จะแสดงดังต่อไปนี้

อ้างถึง
1)   คนมีเงิน – นั่งในตำแหน่งที่มีทรัพย์สินเงินทองมหาศาลเสวยอาหารรสเลิศชั้นหนึ่ง นอนในคฤหาสน์  ถลุงใช้เงินที่ไม่มีวันหมด ใช้ชีวิตแบบนี้ใครๆก็อิจฉา

2)   คนมีอำนาจ – ตำแหน่งเรืองอำนาจ อำนาจที่แข็งแกร่ง เสียงดังพูดอะไรออกมาผู้คนต่างคล้อยตาม ลักษณะท่าทางน่าเกรงขาม คนสองลักษณะนี้ล้วนมิใช่ชีวิตที่มีความหมาย เงินทองตำแหน่งลาภยศ  สามารถโชติช่วงรุ่งเรืองได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ไม่สามารถเสวยสุขได้ชั่วนิรันดร   แต่สามารถเอื้อประโยชน์ได้ยามมีชีวิตอยู่เท่านั้น  ไม่สามารถเอื้อประโยชน์ได้ยามตาย เมื่อชีวิตเดินมาถึงวาระสุดท้าย ทรัพย์ภายนอกกายเหล่านี้ ช่วยอะไรไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อดิ้นรนครอบครองทรัพย์เหล่านี้ซึ่งเป็นการนำภัยแห่งความตายถึงตัว  ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมามีคนมากมายใช้วิธีต่างๆ จนสุดความสามารถแสวงหาอำนาจตำแหน่ง สุดท้ายพัวพันเดือดร้อนต้องถูกประหารชีวิตทั้งครอบครัว
ถึงแม้ว่าอาจมีคนสามารถปลอดภัยชั่วชีวิต อยู่อย่างร่ำรวยจนถึงแก่ สุดท้ายก็สองมือว่างเปล่า ชาวตะวันตกมีสุภาษิตคำหนึ่งว่า “ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงก็ตาม สุดท้ายก็ไม่พ้นโลงศพกับสุสาน”  ฉะนั้นผู้มีปัญญา ชีวิตที่สรรสร้างนั้นจะไม่เหมือนกับคนสองประเภทก่อนหน้านั้น แต่จะเลียนแบบปราชญ์อริยะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หาเจอตัวจริงของตน ใช้ชีวิตที่ล้ำค่าอย่างแท้จริง นี่ก็คือเส้นทางปราชญ์อริยะที่จะกล่าวถึงในตอนท้าย

3)   วิถีแห่งปราชญ์อริยะ – หลังจากรับวิถีธรรมแล้ว ได้เข้าใจว่าในกายปลอมนี้  ยังมีจิตญาณตัวจริงของเราดำรงอยู่ จิตวิญญาณดวงนี้ ไม่ตายชั่วนิรันดร แต่จะไปตามแรงกรรมที่ได้กระทำไว้ ซึ่งเป็นตัวกำหนดแหล่งที่ไปที่แน่นอน
นักปราชญ์เป็นผู้รู้ก่อนตื่นก่อน เข้าใจหลักสัจธรรมนี้  จึงใช้ชีวิตด้วยหลักคุณธรรมในทุกเรื่อง ฝึกฝนตนเองบำเพ็ญภายใน และเพิ่มพูนบารมีให้กว้างขวางเดินออกไปฉุดช่วยเวไนยสัตว์ นำพาเวไนยเดินไปสู่แสงสว่าง

นักปราชญ์เหล่านี้ ตอนยังมีชีวิตอยู่ถึงแม้จะได้รับความทุกข์ความทรมานอย่างแสนสาหัส  ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม  เพื่อประโยชน์ส่วนรวม  เมื่อตายไปชื่อเสียงเลื่องลือไปชั่วฟ้าดินสลาย คนรุ่นหลังรำลึกถึงตลอดกาลนาน

(4)   ทัศนะชีวิตที่เที่ยงแท้ ก้าวสู่วิถีแห่งปราชญ์อริยะ
ชั่วชีวิตของนักปราชญ์ ไม่เพียงแต่ฟื้นฟูพุทธจิตของตัวเองให้กลมใสสมบูรณ์เท่านั้น ยังจะต้องช่วยคนอื่นๆหาจิตพุทธะของตนเองกลับคืน ถ้าจะเลียนแบบปราชญ์อริยะก็จำเป็นจะต้องบำเพ็ญทั้งภายนอกและภายในควบคู่ดังต่อไปนี้

อ้างถึง
1)    บำเพ็ญภายใน – พิชิตใจที่เพ้อฝัน ใจคนที่โลภในผลประโยชน์ถูกอำนาจผลประโยชน์ครอบงำ โลภในชื่อเสียง ถูกชื่อเสียงผูกมัด ความโลภไร้ที่สิ้นสุด ก็จะบำเพ็ญลำบาก หากสามารถลดกิเลสความอยากลงหนึ่งส่วน ความทุกข์ก็ลดลงหนึ่งส่วน ปัญญาก็เพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน ใจพุทธะก็ปรากฏ   ความสำเร็จเป็นพระพุทธะก็มีมากขึ้น
2)   บำเพ็ญภายนอก – นักปราชญ์อดทนแบกรับหน้าที่ทั่วโลกไว้กับตนเองสามารถดูแลใส่ใจเวไนย ฉุดช่วยผู้มีบุญสัมพันธ์อย่างกว้างไกล ใช้ปัญญาแก้ไขความทุกข์ของเหล่าเวไนย นำพาส่งเสริมให้เหล่าเวไนยจุดประกายจิตเดิมแท้ภายในออกมา เพื่อช่วยให้เขาได้กลับคืนสู่มาตุภูมิเดิม
[/color]
(5)   สรุป
เพียงแค่ความคิดผิดของปุถุชน ทำให้เสียแรง เสียเวลาไปอย่างไร้ค่าตลอดชั่วชีวิต  แต่เมื่อผ่านการรับวิถีธรรม ศึกษาธรรม ทำให้เราเข้าใจชีวิตคืออะไร ชีวิตที่จะดำเนินต่อไปมีความหมายเป็นอย่างไร หลังจากเข้าใจแล้ว ก็ต้องถนอมรักษาไว้ให้ดีๆ เสริมให้มีความแข็งแกร่ง ก้าวเดินไปข้างหน้าโดยไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปอย่างไร้ประโยชน์  

* 06-3-032-01.jpg (64.21 KB - ดาวน์โหลด 913 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 19, 2013, 11:06:17 AM โดย 96rangjai-dd » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  ตอบ  |  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

+ ตอบด่วน
 


96 ธรรมคือแรงใจ | ปิ๊งแว๊บ ! ปััญญาแจ่มบรรเจิด | อ่านธรรม | มูลนิธิเมตตาอาทร | เสบียงบุญ | วิถีอนุตตรธรรม |

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความคิดเห็น

1. โปรดงดเว้น การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
2. ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นเวบบอร์ดโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไปและสมาชิก
ซึ่งทีมงาน 96rangjai มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้
3. หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป
4. ทีมงาน 96rangjai ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น