ยินดีต้อนรับสู่ฟอรั่ม 96 เสวนาธรรมบำเพ็ญ
กรุณา ลงทะเบียน เพื่อสามารถใช้งานฟอรั่มได้อย่างเต็มรูปแบบ !
ลงทะเบียนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและใช้เวลาเพียงเล็กน้อย

"โดยพื้นฐานธรรมชาติเดิมแท้ของตัวเรา
เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์และสะอาด
ถ้าเรารู้จิตของเราและเห็นถึงธรรมชาติเดิมแท้ของเรา
เราทั้งหลายก็จะบรรลุถึงความเป็นพุทธะ"

You are here: 96เสวนาธรรมบำเพ็ญ » เสวนาธรรม-พูดคุย » บำเพ็ญธรรมกับการกินเจ » 

การกินเนื้อสัตว์ขัดแย้งกับพระพุทธศาสนาหรือไม่ ?

หน้า: [1]   ลงล่าง
  ตอบ  |  พิมพ์  
Share this topic on FacebookShare this topic on Twitter
ผู้เขียน หัวข้อ: การกินเนื้อสัตว์ขัดแย้งกับพระพุทธศาสนาหรือไม่ ?  (อ่าน 10285 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
admin
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: สิงหาคม 14, 2011, 10:44:24 PM »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


การกินเนื้อสัตว์ขัดแย้งกับพระพุทธศาสนาหรือไม่
ธรรมบรรยายโดย อาจารย์สมภาร พรมทา

บทสรุป ท้ายที่สุดแล้วพุทธทุกฝ่ายก็เห็นร่วมกันว่า  การถือมังสวิรัติเป็นดี

การที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้สาวกกินเนื้อสัตว์ได้
ตามที่ปรากฏในคัมภีร์ของฝ่ายเถรวาทนั้น
ควรเข้าใจว่าเป็นคนละเรื่องกับการสนับสนุนให้กินเนื้อสัตว์


ระบบจริยธรรมของพุทธศาสนาเถรวาทนั้น
เป็นระบบที่คิดเผื่อให้มีทางออก
สำหรับสถานการณ์ที่เราไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้

เมื่อเราเข้าไปดูหนังในโรงหนัง
โรงหนังนั้นต้องมีทางออกปิดเอาไว้
สำหรับคนที่มีภาระต้องออกไป ก่อนคนอื่น
หรือไม่ยินดีที่จะดูหนังต่อเพราะหมดสนุก


พระพุทธองค์ทรงคิดเช่นนี้
จึงทรงอนุญาตให้ชาวพุทธบริโภคเนื้อสัตว์ได้

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าในอนาคตหลังจากที่ทรงปรินิพพานแล้ว
พุทธศาสนาอาจแพร่เข้าไปในดินแดนที่อาหารหลักของผู้คนคือเนื้อสัตว์
(เช่นบริเวณขั้วโลกเหนือที่ปลูกพืชแทบจะไม่ได้เลย
มีแต่ปลาและเนื้อเท่านั้นที่ผู้คนจะกินเป็นอาหารได้)

การปิดประตูสนิทสำหรับการกินเนื้อสัตว์
จึงอาจเป็นอุปสรรคต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
แต่การมีประตูออกที่โรงหนัง
ไม่ได้แปลว่าเป็นการเชิญชวนให้ทุกคนออกมาจากโรงหนัง

การมีอยู่ของประตูนั้น
ควรเข้าใจว่ามีอยู่ในฐานะช่องทางสำหรับการเลือก
จริยธรรมแบบที่ไม่มีช่องทางสำหรับการเลือกเลยนั้น
พุทธศาสนาเถรวาทถือว่าเป็นจริยธรรมที่สุดโต่ง


การที่ฝ่ายมหายานมีความปรารถนา
ที่จะให้โลกนี้ลดการฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหารมนุษย์นั้น
ต้องถือว่าเป็นเจตนาดีอย่างไม่มีข้อสงสัย


ยิ่งในโลกปัจจุบันที่อุตสาหกรรมอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์
กระทำในรูปธุรกิจที่มีการเลี้ยงสัตว์คราวละมากๆ
และฆ่าสัตว์เพื่อส่งตลาดคราวละมากๆ

ข้อเสนอของฝ่ายมหายานยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
สิ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ

การที่เรายังกินเนื้อสัตว์อยู่
เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความชั่วร้าย
ที่กลายเป็นระบบไปแล้วนี้ยังดำรงอยู่ต่อไป
________________________________
________
 

สัตว์จำนวนมหาศาลต้องถูกเลี้ยงในสถานที่ที่แออัด
ถูกปฏิบัติอย่างไม่มีคุณค่าโดยเจ้าของธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง
รอวันหนึ่งเมื่อเนื้อของมันจะให้ค่าตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ลงทุน
พวกมันก็จะถูกกวาดต้อนไปเชือด

นี่คือปาณาติบาตที่ทำอย่างเป็นระบบ เป็นวงจร
และอย่างปราศจากความสำนึกทางศีลธรรมใดใด


การเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหารบ้างในสังคมเกษตรกรรมนั้น
อาจถูกตั้งคำถามไม่มากนักในเชิงจริยธรรม


ชาวนาที่เลี้ยงไก้ไว้ในบ้านปฏิบัติต่อไก่นั้น
อย่างมนุษย์ปฏิบัติต่อเพื่อสรรพสัตว์
ให้อาหารมัน มีที่มีทางให้มันได้เดิน ได้วิ่ง
ได้เลี้ยงลูก ตามประสาของมัน


ถึงเวลาที่จำเป็นเขาอาจขอชีวิตพวกมันบางตัวเพื่อเป็นอาหาร

ปาณาติบาตในสภาพการณ็เช่นนี้ยังพอเป็นที่เข้าใจได้

แต่ไก่หรือหมูที่อยู่ในโรงเลี้ยงสัตว์จำนวนเป็นพันเป็นหมื่นตัวนั้น
ไม่มีคุณค่าหรือศักดิ์ใดใดหลงเหลืออยู่
ระบบที่ปฏิบัติต่อพวกมันก็ไม่ใช่ระบบของมนุษย์
(เมื่อเทียบกับที่ชาวนาเลี้ยงไก่)


สิ่งที่พุทธศาสนามหายานเรียกร้องชาวพุทธก็คือ

ทำไมเมตตาธรรมของเราจงไม่ควรที่จะเอื้อมาถึงสัตว์เหล่านี้

พวกมันไม่มีอำนาจต่อรองใดใด
ที่จะช่วยตัวเองให้พ้นไปจากนรกบนดินนี้
นอกจากจะมีมนุษย์ผู้มีจิตใจประเสริฐมาช่วยเหลือ


เมตตาธรรมสำหรับฝ่ายมหายาน
นอกจากจะคือความรักและหวังดีต่อเพื่อสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยาก
ยังหมายถึงการจะไม่ยอมให้มีการกดขี่เบียดเบียนกัน
โดยที่เราไม่ยอมยื่นมือไปช่วยด้วย
เมตตาธรรมในความหมายหลังนี้
คือความมีน้ำใจ การคิดถึงผู้อื่น


และรู้สึกว่าตราบใดที่โลกนี้ยังมีการกดขี่เบียดเบียนกัน
เราจะนิ่งดูดายคิดถึงแต่ความบริสุทธิ์ส่วนตัวไม่ได้


ชาวพุทธที่ปิดบ้านนั่งภาวนาเพื่อไปพระนิพพาน
โดยไม่มองออกไปข้างนอกบ้านว่าที่โน่นเขาทำอะไรกันบ้าง
จะถือว่ามีเมตตาได้หรือ

นี่คือคำถามที่ผู้วิจัยคิดว่าฝ่ายมหายานได้ตอบเอาไว้ชัด

ฝ่ายเถรวาทจะตอบคำถามนี้อย่างไร
นี่คือสิ่งที่เราชาวเถรวาทจะต้องช่วยกันตอบ


การไม่กินเนื้อสัตว์เป็นหลักการแก้ความชั่วร้ายโดยวิธีอหิงสาโดยแท้

เราไม่จำเป็นต้องเรียกร้องระบบการคุ้มครองสิทธิสัตว์
(คือเสนอให้มีกฏหมายยกเลิกการค้าขายเนื้อสัตว์)
อย่างที่ชาวตะวันตกบางพวกกำลังรณรงค์

เพราะการเสนอเช่นนั้นเป็นการสร้างการเผชิญหน้ากัน
สิ่งทื่เราสามารถทำได้ง่ายๆ ตรงไปตรงมาทันทีทันใด
คือ พยายามไม่กินเนื้อสัตว์
สำหรับชาวพุทธเถรวาท
คฤหัสถ์อาจถือมังสวิรัติได้ง่ายกว่าพระสงฆ์
เพราะเป็นผู้ที่สามารถเลือกได้



และคฤหัสถ์ที่ถือมังสวิรัตินั่นแหละ
ที่จะช่วยให้พระสงฆ์ถือมังสวิรัติได้อย่างง่ายดาย
ด้วยการถวายอาหารมังสวิรัติแก่ท่าน
พระสงฆ์ท่านไม่มีทางปฏิเสธการอุปถัมภ์ของชาวบ้านอยู่แล้ว
เราถวายสิ่งใดท่านก็ฉันสิ่งนั้น

แต่การเลิกกินเนื้อสัตว์ไม่ใช่ของที่จะเลิกกระทำได้ง่ายๆ
เพราะระบบวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ที่เราถือกันเป็นหลักใหญ่ในโลกขณะนี้
เชื่อว่ามนษย์ถูกสร้างมาให้กินเนื้อสัตว์
เพื่อสร้างสมองของเด็กให้เจริญเติบโต


ถ้ามนุษย์ยังมีความจำเป็นบางประการ
ที่จะต้องกินเนื้อสัตว์อยู่
จริยธรรมแบบทางเลือกที่พุทธศาสนาเถรวาทเสนอนั้น
ก็น่าที่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

การกินเนื้อสัตว์บนพื้นฐานของความสำนึกว่า
ตนเองกำลังเอาเปรียบผู้อื่นจะเป็นแรงหน่วงดึงที่สำคัญ
ที่ไม่ได้ทำให้เด็กกินเพื่อความอร่อย
แต่เพราะความจำเป็น




ยิ่งพุทธศาสนาเถรวาทมีคำสอน
ที่บรรยายโทษของการประกอบอาชีพปาณาติบาต
(เช่นเรื่องนายโคฆาตก์และนายจุนทสูกริกใน “อรรถกถาธรรมบท”)
ว่าจะทำให้มีชีวิตที่เศร้าหมองอย่างไร

คำสอนนี้จะยิ่งมีส่วนช่วยให้ผู้ที่ประกอบอาชีพปาณาติบาต
โดยเฉพาะในเชิงอุตสาหกรรมมีความตระหนักคิดมากขึ้น


ฝ่ายมหายานนั้นรณรงค์ที่ผู้บริโภค
ส่วนฝ่ายเถรวาทก็รณรงค์ที่ผู้ผลิต
เมื่อผนวกจริยธรรมจากสองฝ่ายเข้าด้วยกัน
การฆ่าสัตว์และกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร
ก็คงจะลดลงจากโลกนี้เรื่อยๆ อย่างแน่นอน

(คัดลอกบางตอนมาจาก : งานวิจัยเรื่อง “กิน : มุมมองของพุทธศาสนา” โดยอาจารย์สมภาร พรมทา ภาควิชาปรัชญา โครงการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พิมพ์ครั้งที่ ๒, พ.ศ ๒๕๔๗, หน้า ๗๕-๗๘)

* เว้นกรรม.jpg (104 KB - ดาวน์โหลด 647 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 14, 2011, 11:35:01 PM โดย admin » บันทึกการเข้า
dinhin
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 05:25:09 AM »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


บทความดีมากครับ ผมก็ทานมังสวิรัติ
บันทึกการเข้า
k.จาง
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2012, 07:20:25 PM »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


ไม่ว่าเป็นคนนับถือศาสนาอะไรก็ตาม...
หากเราสามารถ เลือกที่จะไม่กินเนื้อสัตว์เพราะมีความเมตตา รู้จักสงสารชีวิตเขา ( เพราะทุกตัวกลัวการถูกฆ่า )
ก็ควรจะงดอาหารเนื้อสัตว์ เพราะทุกวันนี้เราก็รู้อยู่แล้วว่า มีอาหารมังสะวิรัติและอาหารเจ เป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
เพียงแต่ คนที่ยังคงติดรสชาดในอาหารเนื้อสัตว์ ที่ไม่เคยนึกถึงเรื่องความมีเมตตากระมัง ทำเอาเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขอกินอย่างเดียว
คิดเอาแต่ลาภทางปาก...พวกเขาคงจะต้องตอบแทนเหตุการณ์นี้ด้วยการเจ็บป่วยอย่างทุกข์ทรมานในอนาคตเป็นแน่แท้...
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  ตอบ  |  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

+ ตอบด่วน
 


96 ธรรมคือแรงใจ | ปิ๊งแว๊บ ! ปััญญาแจ่มบรรเจิด | อ่านธรรม | มูลนิธิเมตตาอาทร | เสบียงบุญ | วิถีอนุตตรธรรม |

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความคิดเห็น

1. โปรดงดเว้น การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
2. ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นเวบบอร์ดโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไปและสมาชิก
ซึ่งทีมงาน 96rangjai มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้
3. หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป
4. ทีมงาน 96rangjai ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น