96เสวนาธรรมบำเพ็ญ

ธรรมะเป็นยาวิเศษ => พระพุทธจี้กง => ข้อความที่เริ่มโดย: admin ที่ พฤษภาคม 18, 2013, 05:39:41 AM



หัวข้อ: ความสาเร็จมาจากการเคี่ยวกรา (成功來自磨練 成功來自磨練)
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 18, 2013, 05:39:41 AM
第一課 成功來自磨練 成功來自磨練
บทที่ ๑ ความสาเร็จมาจากการเคี่ยวกรํา

อ้างถึง
ความสาเร็จของคนๆหนึ่ง ถ้าหากไม่เจอการเคี่ยวกรา ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับตาแหน่งแห่งความสาเร็จ เหมือนกับการปีนบันได ต้องปีนขึ้นไปทีละก้าวๆ เจ้าต้องเตรียมใจให้พร้อม แต่ละขั้นของบันได มีสูงบ้าง เตี้ยบ้าง ตัวเองต้องย่าก้าวให้มั่นคง หากเจ้าไม่เตรียมพร้อมจิตใจให้มั่นคงแข็งแรงเพียงพอ แม้จะปีนขึ้นไปได้แล้ว แต่ก็ไม่มั่นคง ดังนั้น หากเจ้าเกิดความโลภอยากประสบความสาเร็จในทันทีทันใด ต้องการเหนือกว่าคนอื่น ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าต้องรีบปรับจิตใจของเจ้า

ไม่มีเส้นทางบาเพ็ญธรรมของใครที่ราบเรียบเสมอ ย่อมต้องมีอุปสรรคลุ่มดอน และไม่ราบรื่น ระหว่างคนอยู่ร่วมกัน มีบางเวลาที่อาจจะไม่สมใจปรารถนาเสมอไป เพราะจิตใจของพวกเจ้า ความคิดของพวกเจ้า ไม่สามารถปรับให้สมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้นจะต้องปรับตนเองก่อน บาเพ็ญบ่มเพาะตนเองก่อน ไม่ใช่ไปที่ไหนก็เที่ยวไปขอร้องกวดขันคนอื่นให้ร่วมมือกับเจ้า ตัวเจ้าเองต้องบาเพ็ญให้ดีก่อน จึงสามารถส่งผลกระทบที่ดีต่อคนอื่นได้

คนเราจะต้องมีพลังห้าวหาญ แต่อย่าได้เย่อหยิ่งทรนง มีพลังในการไปดาเนินเรื่องราวต่างๆ มีพลังความกล้าหาญในมุ่งตรงไปข้างหน้า ไม่หวั่นกลัวอุปสรรคขวากหนาม ในชีวิตคนเราเรื่องความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ยากหลีกเลี่ยงได้ อย่าได้เป็นเพราะความผิดพลาดล้มเหลวครั้งสองครั้ง ก็ไม่กล้าที่จะก้าวมุ่งต่อไปข้างหน้า


ชีวิตคนเราเป็นเพราะมีอุปสรรคไม่ราบรื่น ดังนั้นจึงมีมีความเจ็บปวดใจ จิตใจไม่เบิกบาน อันที่จริงแล้วเรื่องเหล่านี้เป็นความทุกข์กลัดกลุ้มที่คนเราหามาใส่ตัวเอง หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ตนเองหลับหูหลับตาไปแสวงหา ทั้งที่ตนเองสามารถทาได้และไม่อยากทา นี่เรียกว่าตนเองทาเองรับเอง (หาความทุกข์ใส่ตัวเอง) หากสามารถมองถ่องแท้ คิดไตร่ตรองให้กระจ่างแจ้ง เจ้าก็จะได้รับความสุข


อ้างถึง
คนเราบ่อยครั้งที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคขวากหนามจึงเกิดความท้อแท้ถดถอย จิตใจท้อแท้ถดถอย พวกเจ้าจาเป็นต้องไปเผชิญหน้ากับมัน แก้ไขปัญหาต่างๆ จึงจะสามารถประสบความสาเร็จ มองเห็นคนอื่นดูเหมือนจะประสบสาเร็จง่ายดายมาก แต่แท้จริงแล้วล้วนต้องผ่านความเสียสละและทุ่มเทใจ เพราะว่าความสาเร็จนั้นมิใช่เรื่องบังเอิญ มีเพียงตัวเราเองต้องทุ่มเทใจอย่างแท้จริง เบื้องหลังอาจได้รับความลาบากบ้าง นั่นจึงเป็นความสาเร็จอย่างแท้จริง

ทุกคนต่างก็มีหนทางตันและมีเรื่องที่จาเป็นต้องฝ่าฟันไปให้ได้ แม้ว่าจุดตันจะฝังอยู่ในใจพวกเรานานเท่าไหร่ ขอเพียงศิษย์ทั้งหลายไม่ยอมแพ้ กล้าหาญที่จะก้าวออกมา ขอเพียงศิษย์ทั้งหลายรู้จักขอบคุณตัวเอง ขอบคุณฟ้าเบื้องบน ขอบคุณบุพการีของเจ้าที่มอบทุกอย่างให้ ตั้งใจถนอมรักษาไว้ให้ดี เส้นทางสายนี้จะสว่างไสวตลอดไป

หากไม่ผ่านความมืดมิด ในเลยจะปรากฏความล้าค่าสูงส่งของแสงสว่างโชติช่วง ยิ่งเจออุปสรรคความ
ยากลาบาก ยิ่งจะต้องกล้าหาญไปฝ่าฟัน ตั้งปณิธานความมุ่งมั่น เข้มแข็งยืนหยัดต่อไปให้ถึงที่สุด ยิ่งกว่านั้นจะต้องมีความมั่นคงศรัทธาตลอดไป ขอเพียงพวกเจ้ามีความศรัทธาจริงใจอย่างถึงที่สุด ดังที่เรียกว่า “ความจริงใจศรัทธาย่อมเกิดความศักดิ์สิทธิ์” ฟ้าเบื้องบนย่อมไม่ทอดทิ้งหรือผิดต่อพวกเจ้าอย่างแน่นอน พระคุณฟ้าดินนั้นยิ่งใหญ่ เราทั้งหลายล้วนโชคดีมีวาสนา อาจารย์หวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะมีแต่ความคิดที่ดีงาม ชะตาชีวิตก็จะอยู่ในกามือของตนเอง คนอื่นไม่อาจบงการพวกเราได้ เข้าใจไหม?

ไม่ว่าวันนี้เจ้าอาจคิดว่ามาที่นี่เพื่อดูละคร หรือว่าเจ้าจะเคารพให้ความสาคัญตนเองอย่างแท้จริง หรือตัวเจ้าเองอาจรู้สึกว่าในชีวิตนี้ควรจะมีเส้นทางสายหนึ่งที่ให้เจ้ามุ่งไปตามนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บนเส้นทางชีวิตคน ทุกคนที่ต้องการเติบโต แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีใครที่ไม่เคยหกล้มมาก่อน ไม่ว่าวันนี้เจ้าเลือกเส้นทางไหน จะต้องแยกแยะให้ชัดเจน มองเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน ตั้งใจก้าวดาเนินไปบนเส้นทางชีวิตของเจ้าให้สมบูรณ์


อ้างถึง
หากปรารถนาจะดารงชีวิตให้มีความหมาย จิตใจจะต้องมีเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง และจิตใจจะต้องมีปฏิภาณไหวพริบรู้พลิกแพลง อย่าทาให้จิตใจของตนเองต้องตกต่า ยามเจออุปสรรคขวากหนาม ถูกปฏิเสธ ไม่เป็นไร สิ่งเหล่านี้อาจารย์เองก็เคยได้รับมาก่อน แต่อาจารย์ก็เด็ดเดี่ยวแน่วแน่เดินมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่า ไม่ใช่คนทุกคน ไม่ใช่ศิษย์ทุกคนจะยินยอมน้อมรับอาจารย์ แต่อาจารย์ยังคงมีจิตใจยึดมั่นไม่หวั่นไหวระย่อท้อ ไม่เคยพูดเลยว่าจะทอดทิ้งพวกเจ้า

ศิษย์ทั้งหลายต้องตั้งใจให้ดี บาเพ็ญธรรมให้ดีๆ ด้านมนุษยธรรม ด้านบาเพ็ญอนุตตรธรรมต้องปฏิบัติดาเนินให้ถึงที่สุด ขอเพียงศิษย์สบายดี อาจารย์ก็สบายใจ ต้องเข้าใจว่าชีวิตมีคุณค่าความหมาย ชีวิตนี้จึงไม่สูญเปล่า ถึงแม้บางครั้งศิษย์ไม่อาจแสดงความสามารถได้เต็มที่ แต่ทุกอย่างล้วนมีเหตุปัจจัย จะเร่งรีบร้อนใจก็ไม่ได้ ดังนั้นจะต้องมีปณิธานความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่ แต่อย่าได้ใฝ่สูงหวังไกลเกินไป ศึกษาพระคัมภีร์ต่างๆให้มาก ทาความเข้าใจในหลักเหตุผล ยึดหลักสัจธรรมบาเพ็ญจริง ต้องตื่นแจ้งอย่างถ่องแท้ว่ากายสังขารนี้คือตัวปลอม แม้กระทั่งการเจ็บป่วยก็เป็นสิ่งจอมปลอม ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ต้องมองให้กระจ่าง ตั้งใจบาเพ็ญธรรมให้ดี อย่าได้ลืมความทุ่มเทใจของอาจารย์

พวกเจ้าต้องเชื่อฟัง ว่านอนสอนง่าย ทุกคนต้องทุ่มเทใจ เพื่อการปฏิบัติงานธรรมบ่อยครั้งต้องรับความทุกข์ยากลาบาก สิ่งเหล่านี้อาจารย์ล้วนทราบดี พวกเจ้าต้องจดจาไว้ว่า ระหว่างเส้นทางการบาเพ็ญยากหลีกเลี่ยงที่จะต้องเจออุปสรรคความทุกข์ยากลาบาก เจ้าดูสิว่าตั้งแต่โบราณกาลมา เซียนพุทธะโพธิสัตว์ทั้งหลาย ต่างล้วนต้องพบเจอกับอุปสรรคขวากหนามนานัปการจึงบรรลุธรรมสาเร็จอริยมรรค มีคาสุภาษิตกล่าวว่า “ไม่เคยผ่านความหนาวเหน็บจนเข้ากระดูก ไหนเลยจะพบกลิ่นหอมกรุ่นของดอกเหมยงาม ? ” ดังนั้น ต้องรู้จักภาระหน้าที่ เข้าใจชะตาชีวิต เจ้าจึงสามารถกาหนดชีวิต ชาระชีวิตบุญบาปได้